Tuesday, January 04, 2011

ของใหม่ของคนตกยุค (ชั่วขณะ) รึเปล่า??


อยากเห็นอะไรแปลกๆใหม่ๆในปีนี้บ้าง... แต่ไม่รู้ว่าไอ้ที่อยากจะเห็นมันมีไปแล้วรึยัง

หมวด หนังสือ

๑. ช่องทางทำมาหากิน รวมเล่มชุดที่ ๗

เห็นเล่มนี้ ไอ้เราก็ดีใจ นึกว่าเออ จะสรุปเฉพาะบทความแนวทางทำธุรกิจ ที่ไหนได้... เอามาทั้งเล่มเลย เรียกว่าถ้าใครซื้อประจำอยู่แล้วไปซื้อฉบับรวมมาอีกนี่ เสียดายเงินเลยล่ะ จะว่าไปแล้วเค้าก็พูดถูกนะว่ารวมเล่ม - -“ ไม่ได้เขียนว่ารวมแนวทางหรือไอเดียธุรกิจ

ว่าแต่... มันไม่มีแนวทางทำธุรกิจที่ไม่ต้องผลิตสินค้า ไปหาสินค้า เป็นตัวแทนจำหน่ายหรือหาลูกค้าให้บริษัทแม่บ้างมั้ยวะเนี่ย... เอาชัดๆคือช่องทางทำธุรกิจ(บริการ)แปลกๆ อย่างพวกไทยทิกเก็ต บริษัทออกาไนเซอร์งี้ บริษัทจัดหานายแบนางแบบ รับจัดหาคู่ทำนองนี้ แต่เสนอแนวทางลงทุนแบบที่ไม่ต้องลงทุนสูงน่ะมีมั้ย (คาดว่าที่ว่าเค้าไม่ทำ เพราะมันเป็นธุรกิจใช้ทุนสูง แต่มันก็น่าจะมีวิธีประยุกต์ให้เหมาะกับชาวบ้านได้นี่หว่า อย่างพวกต่างจังหวัด ทำไมจะทำอีเวนต์ในส่วนตำบลไม่ได้?? ไอ้ทุนสูงน่ะ เพราะในเมืองหรอกย่ะ กับอีกเหตุผลคือ เป้าหมายเค้าคือการเน้นโฆษณาขายตรง และการสร้างรายได้ให้ภูมิปัญญาท้องถิ่น... แต่ไอ้ธุรกิจแปลกๆที่ว่าเราก็อยากได้อยู่ ออกเป็นฉบับพิเศษก็ยังดี หรือมันจะไปอยู่ในพวกกรณีศึกษาเชิงวิชาการที่ชาวบ้านไม่อ่านกันวะเนี่ยยย ไม่รู้จะเขียนให้อ่านยากๆ ให้ชาวบ้านอ่านเป็นแนวทางไม่ได้ไปทำไม)

๒. หนังสือแนะนำสถานที่ท่องเที่ยว และที่พักสำหรับครอบครัวมีสัตว์เลี้ยง

กำลังหาเวอร์ชั่นรวมแหล่งท่องเที่ยวและที่พักสำหรับครอบครัวที่มีสัตว์ เลี้ยง และรองรับได้ตั้งแต่ขนาดเล็กอย่างหนูแฮมส์เตอร์ถึงขนาดใหญ่อย่างลาบราดอร์ รึตัวประหลาดอยางอีน่ากัวทำนองนี้ (หวังว่าคงจะไม่มีใครคิดจะพางูจงอาง หรือจระเข้ไปเที่ยวนะ) และไม่รังเกียจหมาไทยแท้ดั้งเดิม (ที่ขึ้นชื่อว่าซื่อสัตย์ที่สุด แต่ดันโดนให้เฝ้าบ้าน แล้วเอาม๋าฝรั่งไปเที่ยวแทน มันยู้ดดติทำแร้วหรือสำหรับน้องม๋าตัวน้อยๆผู้น่ารัก) หมาก็อยากเปิดหูเปิดตาเหมือนกันนาเฟ้ยยยย...

อ่อ อยากให้มีห้างที่พาสุนัขไปเดินเลือกซื้อของเองได้ โดยเฉพาะร้านหรือแผนกของเล่น เผื่อว่าหมา(บางตัว)อยากเลือกของเล่นเอง(มั้ง).... แล้วสะดวกเจ้าของด้วยเวลาที่จะซื้อเสื้อผ้าให้น้องม๋า อย่างน้อยก็ได้ลองเลยว่าใส่ได้มั้ยไม่ต้องซื้อมาแล้วขายต่อคนอื่น หรือวิ่งกลับเอาไปเปลี่ยน

ส่วนที่มาของเรื่องนี้คือ.... ไปจ่ายเงินค่าสอบภาษาอังกฤษ แล้วมีแม่พาลูกมาด้วย (น่าจะลูกชายนะ) ดูแล้ววุ่นวายน่ารักดี แกไม่งอแงนะ แต่ป้วนเปี้ยนเหมือนจะรำคาญว่าแม่ทำอะไรนานจัง เกี่ยวอะไรกับแม่ลูก ใช่ป่ะ??? เกี่ยว... ตรงที่น้องม๋าที่บ้านเราเลี้ยงจนมันคิดว่ามันเป็นคนแล้ว และมันก็เหมือนเด็กจริงๆ ชอบเถียง ชอบบ่น โวยวายเวลาไม่ได้ดังใจ (เคยเห็นม๋าไม่ได้ดังใจมั้ยล่ะ ไม่ต่างกับเด็ก-นิสัยไม่ดี-เลยล่ะ) บางทีก็อยากพาเค้าไปเที่ยวที่อื่นที่ไม่ใช่แค่บริเวณบ้าน และพื้นที่ใกล้เคียงบ้าง ก็เท่านั้น (จริงๆ.. นะ.. จ๊ะ)

แต่งานนี้แต่ละที่คงต้องมีนโยบายป้องกันคนเอาสัตว์ไปก่อความวุ่นวาย และกันคนไปก่อความวุ่นวายซะเองด้วยการพาสัตว์ไปปล่อยอะไรแบบนี้ด้วย

หมวด วิถีชีวิต

รถไฟฟ้าขบวนใหม่

เพิ่งได้ขึ้นรถไฟฟ้าขบวนใหม่ เหมือนเป็นพวกตกยุคเลย ทั้งๆที่ใช้รถไฟฟ้าทุกวัน รึว่ามันวิ่งเฉพาะเส้นสีลม และวิ่งเฉพาะตอนกลางวันฟะ เอาเหอะ มันก็แปลกเป็นเรื่องธรรมดา แค่อาจจะไม่ธรรมดาเท่าการเปลี่ยนเมล์เขียวเป็นเมล์ส้มที่มีที่นั่งน้อยลงและ มีที่ให้โหน.. เอ่อ... ยืนมากกว่า แต่ยังขับได้เ...ย เหมือนเดิม

ส่วนที่ต่างไปจากรถไฟฟ้าขบวนเก่าคือ

๑. จอโฆษณา1 เล็กลง ไม่มีขึ้นหน้าจอว่าอยู่สถานีไหนแล้วเพราะไปขึ้นไฟที่ป้ายเหนือประตูแทน แต่มันก็ยังยัดเยียดให้ดูอยู่ดีล่ะวะ

๒. ป้ายสถานีที่มีสถานีต่อจากอ่อนนุชไปถึงแบริ่งที่ยังไม่เปิดให้บริการ และสถานีที่รู้สึกว่าจะยังผลิต เอิ่ม.. สร้างไม่เสร็จโผล่มาแล้วด้วย อันนี้ไม่รู้ว่าจะมีคนมองใน ๒ มุมรึเปล่านะ โดยเฉพาะคนที่ไปต่างประเทศเป็นว่าเล่น

๑. โง่รึเปล่า มีแค่สองสายยังไม่รู้อีกเหรอว่าตัวเองจะไปไหน

๒. ก็ดีเหมือนกัน น่าจะมีไฟบอกตั้งนานแล้ว

๓. ป้ายบอกสถานียังมีไฟบอกด้วยนะว่าประตูจะเปิดฝั่งไหน.... คนขึ้นบ่อยๆคงเฉยๆนะ แต่บางคนโดยเฉพาะนักท่องเที่ยวเค้าไม่รู้หรอก (จริงๆอย่าว่าแต่นักท่องเที่ยวเลย ชาวเมืองที่ขึ้นรถเมล์เป็นกิจวัตรมาขึ้นรถไฟฟ้าบ้างยังมีสิทธ์งงเลย)

๔. หน้าต่างเล็กไปชนิดที่เรียกว่ากะจะเอามาขายพื้นที่โฆษณาเห็นๆ มันคงจะดีสำหรับพวกที่มีเงินมาลงโฆษณา แต่มันน่ารำคาญมากสำหรับคนโดยสาร ไม่ทราบว่าจะมีอีพวกที่มีเงินจ่ายค่าโฆษณามาลองนั่งรถไฟฟ้าเองมั่งมั้ยวะ เนี่ย จะได้รู้ว่ามันน่ารำคาญ... ว้อยยยยยย

๕. พื้นที่หลบมุมหัว-ท้ายขบวนมันน้อยลงพิลึกนะ แต่เพิ่มราวจับ ดี.. จะได้ไม่มีพวกสันหลังยวบยาบชอบยืนพิงไม่เผื่อที่ให้คนอื่นเกาะ และคนที่นั่งรถเข็นจะได้ไปไหนมาไหนเองได้บ้าง

๖. เสียงเตือนประตูปิด... มันรำคาญหูไปหน่อยมั้ย??? เหมือนคนเป่านกหวีดผสมกับแตรรถซาเล้งยังไงไม่รู้ เปลี่ยนเป็นแบบเก่าน่าจะดีกว่ามั้ยอ่า...

๗. หน้ารถ... ทีแรกก็ว่าทำไมคันนี้หน้ารถมันแปลกๆ พอเข้าไปถึงรู้ว่ามันคือคันใหม่ ไม่น่าล่ะ... แปลกยังไง หัวรถเดิมจะเป็นแบบเหลี่ยมๆ ทื่อๆ แต่อันนี้กระจกโค้งๆหน่อยๆ ไม่ทื่อเหมือนขบวนเก่า

๘. จิปาถะมากมาย แต่ไม่จำเป็นต้องพูดถึงเท่าไหร่ เช่น เสาจับเล็กลง ห่วงจับเปลี่ยนสี ป้ายโฆษณายังไม่มีเกะกะ ฯลฯ

1 ถ้าคำจำกัดความของทีวีคือสื่อที่มีทั้งโฆษณา สารคดี ละคร และข่าว ก็เรียกมันว่าทีวีไม่ได้เพราะอีมีแต่โฆษณาลูกเดียวตั้งแต่ต้นสายยันปลายสาย จนกว่าอีจะเข้าอู่ (ไม่รู้ว่าเข้าไปแล้วจะยังฉายต่อมั้ยตะหาก ประมาณว่าอย่างน้อยคนโดยสารไม่เห็น พนักงานก็ต้องเห็นมั่งล่ะวะ) กับอีกกรณีที่มันจะไม่ฉายคือ มันขัดข้อง...


No comments: