Monday, February 02, 2015

ข้อคิดเวลาเจอปัญหา...

ทำไมเด็กชายตัวน้อยถึงหานาฬิการาคาเป็นแสนของเศรษฐีเจอ ทั้งที่ผู้ใหญ่กว่า 20 คนหาไม่เจอ
2 กุมภาพันธ์ 2558 20:33 น. 
เศรษฐีกับพวกไปเที่ยวฟาร์มแห่งหนึ่ง ทุกคนสนุกสนานกับธรรมชาติ และกิจกรรมในฟาร์มมาก แต่ขณะที่กำลังจะเดินออก เศรษฐีคนนั้นก็พบว่า ”นาฬิกาพก”รุ่นเก่าที่ภรรยาซื้อให้ในวันเกิดหายไป มันต้องตกอยู่ในคอกม้าอย่างแน่นอน เขากับเพื่อนช่วยกันกระจายกันเดินหา”นาฬิกา”ทั่วคอกม้า

ระหว่างเดินหาเพื่อนก็พยายามพูดให้กำลังใจเศรษฐีคนนี้ เดินหาเท่าไรก็ไม่พบ เขาไปแจ้งเจ้าของฟาร์มให้ช่วยเหลือ เจ้าของก็แสนดีเกณฑ์คนที่ว่างงานอยู่เกือบ 20 คนไปค้นหา มีทั้งคุณลุงที่ประจำอยู่คอกม้า ผู้หญิงที่ทำความสะอาด และเด็กชายคนหนึ่ง ทุกคนกระจายกันค้นหา มีการตะโกนบอกกันเป็นระยะๆว่าค้นตรงนั้นแล้วไม่เจอ ให้คนนั้นไปหาตรงนี้ ใช้เวลาค้นหาประมาณ 1 ชั่วโมงก็หา”นาฬิกา”ไม่เจอ เศรษฐีเริ่มสิ้นหวัง คิดว่าคงต้องสูญเสียนาฬิกาเรือนนี้ไปอย่างแน่นอน

 ขณะที่พนักงานของฟาร์มจะเดินจากไป เด็กชายคนนั้นเดินย้อนกลับมาหาเศรษฐีคนนี้อีกครั้ง 
“ขอผมลองเข้าไปดูอีกครั้งนะครับ แต่ขอผมเข้าไปคอกม้าคนเดียว”

 แม้จะรู้สึกว่าเสียเวลาเปล่า แต่เมื่อเด็กน้อยมีน้ำใจ เขาก็พยักหน้าทั้งที่ไม่มั่นใจว่าจะหาเจอ พวกเพื่อนๆก็บ่นลับหลังว่าพวกเราและคนของฟาร์มตั้งเยอะยังหาไม่ได้

 “ไปหาคนเดียวจะเจอได้อย่างไร”

 แต่ไม่ถึง15 นาที เด็กชายคนนี้เดินออกมาด้วยรอยยิ้ม เขาชูนาฬิกา

 “ใช่ เรือนนี้หรือเปล่าครับ”

 เศรษฐีดีใจมาก เพราะนั่นคือ”นาฬิกาพก”แสนรักที่เขากำลังค้นหาอยู่ เขากล่าวขอบคุณและให้สินน้ำใจกับเด็กน้อยแต่ยังคาใจ

 “เธอหาเจอได้อย่างไร”

 เด็กน้อยยิ้มแฉ่ง บอกว่าพอเข้าไปข้างในคนเดียว เขาก็เพียงแต่นั่งเงียบๆ แล้วค่อยๆเปลี่ยนจุดนั่งไปเรื่อยๆ “แค่จุดที่ 3 ผมก็ได้ยินเสียงติ๊กต่อก ติ๊กต่อก” เขาเล่า

“ผมแค่เดินตามเสียงนั้นไปก็เจอนาฬิกาเรือนนี้ครับ”

การค้นหานาฬิกาเรือนนี้ทั้ง 2 ครั้ง ทุกคนคุยกันไปหากันไป ทุกคนพยายามมองหาตัว ”นาฬิกา” แต่ไม่ได้คิดจะฟัง”เสียง”ของนาฬิกา เสียงพูดคุยกลบเสียงดังของนาฬิกาไปสิ้น

 เรื่องเล่าเรื่องนี้สอนให้รู้ว่าการแก้ปัญหาไม่ได้มีเพียงหนทางเดียว เราสามารถค้นหา ”นาฬิกา” ได้ 2 แบบ จะ ”ดู” หรือจะ ”ฟัง”
ทุกปัญหาก็เช่นกัน เราจะแก้ปัญหาแบบที่คนส่วนใหญ่ทำ หรือเราจะมองปัญหาให้ละเอียด มองให้ครบทุกองค์ประกอบ บางทีการแก้ปัญหาอาจมีหลายหนทาง และอีกเรื่องหนึ่งที่ ”เด็ก”คนนี้สอนเราก็คือในวิกฤติที่คิดว่าปัญหาหนักหนาสาหัส บางครั้งเราต้องนิ่ง ต้องมี”สติ” ทำใจให้สงบ เมื่อมีสมาธิ จึงจะค้นพบ”ทางออก” ค่ะต้องนิ่ง และเงียบเท่านั้น เราจึงจะได้ยินเสียง”นาฬิกา"

 ดร. รสา คำ
ข้อมูลจาก: http://nisit.co/WZOr