Thursday, March 27, 2008

Fun Fair = งานวัด!!

อยู่ดีๆก็เบื่อๆหลังจากลับมาจากสกีทริปซะงั้น แต่ก็ออกไปเดินเล่นซะงั้น ช่วงที่ก่อนกลับจากสกีทริปสองสามวันได้ยินว่าลอนดอนหิมะตกด้วย แต่ตกไม่เยอะ เดี๋ยวเดียวก็ละลายหมดแล้ว พอกลับมาก็ดันซ่าไปเดินเล่นแถวๆ Alexandra Palace ช่วงเย็นๆอีกตะหาก ยังกะไปเที่ยวช่องฟรีซในตู้เย็นยังไงก็ไม่รู้ ที่นี่มันอยู่บนเขา คิดว่าน่าจะเป็นจุดที่สูงที่สุดในลอนดอน เพราะมันมีเสาอากาศสถานีวิทยุบีบีซีตั้งเด่ลดความงามของสถาปัตยกรรมอยู่ที่นี่ หิมะที่ตกมันก็เลยยังพอมีเหลือให้เห็นอยู่บ้าง (แต่ไม่ได้ถ่ายมา มันนิดเดียวเอง)
ที่นึกออกไปเดินเล่นไม่ใช่อะไรหรอก เพราะเช็คดูมันมีงาน Easter Fun Fair เลยอยากไปดูหน่อยวามันเป็นยังไง มีอะไรมั่ง ส่วนที่วาไปตอนเย็นซะขนาดนั้นก็เพราะว่าไปเดินหาของกินเข้าห้องตอนเช้าก่อนอ่า (ก่อนไปสกีทริปเคลียร์ของกินซะเกลี้ยงเลย) พอไปแร้วมันดันมีแต่เครื่องเล่นเด็กซะนี่... แต่คนก็ไม่เยอะ (แทบไม่มีแล้วมากกว่า) มันเป็นของเด็กหมดเลย เหอๆ แล้วก็ไม่มีอะไรมากไปกว่า เครื่องเล่น บูธเกม และร้านขายขนมอีกสองสามร้าน
ที่จริงมันมีงานอีกงานด้วยแต่ไม่รู้ว่าไปจัดที่ไหนที่เช็คจากเว็บมันเป็นงาน Farmer's Fair อะไรประมาณนี้ คิดว่าคงเหมือนๆงานเกษตรแฟร์บ้านเรา... (ทีงาน Fun Fair มันยังเหมือนงานวัดเลย งานวัดบ้านเรายังดูมีอะไรมากกว่าเลยด้วยนะ)

Sunday, March 23, 2008

วันนี้พาออกนอกอังกฤษก่อน เหอๆ

Middlesex University Ski Trip 15-21 March 2008
14 Mar 2008 - 15 Mar 2008
ออกเดินทางเวลาประมาณ 22.30 น. ไปถึงท่าเรือเฟอร์รี่ ประมาณตี 1 ได้... มี Duty Free บนเรือด้วย เหอๆๆ มะเหงเช็คพาสปอร์ตเลยอ่ะ ขอทำไมวะเนี่ย... เสียตังค์แล้วยังได้วีซ่ามาแค่ไม่กี่วัน เซงงง...

ที่นี่จะแบ่งส่วนเล่นสกีเป็นสองส่วนใหญ่ๆคือ
Alpe d’huez กับ Les 2 Alpes 3600 ส่วนแต่ละพื้นที่เล่นสกีก็จะแบ่งเป็นประมาณเมืองเล็กๆ ไม่ก็หมู่บ้าน ส่วนที่เราไปเล่นจะเป็นส่วนของ Alpe d’huez ส่วนโรงเรียนสอนสกี-สโนว์บอร์ดรู้สึกว่าจะมีสองแบบ เป็น ESF (Ecole du Ski Francais) กับ ESI (Ecole de Ski International)

ส่วน
รายละเอียดเกี่ยวกับการเตรียมตัวไปสกีทริปของ Middlesex University ที่เราไปมา แต่ดันเพิ่งเปิดเจอ -_-“ ถ้ามันเปิดไม่ได้ยังไงบอกด้วยนะ เพราะทริปนี้มันจบแล้ว เค้าอาจจะเอาออกไป แต่ยังไงเราก็เซฟไว้แล้ว หุหุ

16 Mar 2008
ตอนเช้าไปเอาบอร์ดมา... เค้าจะเปลี่ยนที่ล็อกกับเท้าให้ข้างที่เราถนัดอยู่ด้านหน้า เค้าจะติดเฉียงๆให้ แต่อีกข้างจะวางตรงๆ... [ที่ล็อกเท้ากับบอร์ดเรียก Snowboard Binding] แล้วพวก Ski Lift ก็มีหลายแบบด้วย เหอๆ ชอบระบบ
unlimited skipass card หุหุ ใส่ไว้ในกระเป๋าเสื้อเฉยๆ มันเปิดให้เข้าเอง หุหุ แล้วขึ้น ski lift ได้ทุกแบบ ไม่จำกัดจำนวนครั้ง (เล่นเข้าไปดิ เหอๆ)

เรียน snowboard วันที่หนึ่ง ไม่มีรัยนอกจากแล่นลงทางลาดนิดๆ หัดทรงตัวเฉยๆ เท้าข้างนึงจะยังไม่เสียบลงบอร์ด เสต็ปแรกก็นั่งไถลงไปก่อนเลย ถัดมาก็ยืนเฉยๆ ปล่อยให้มันไหลลงไปเอง
ต่อมาก็กระโดด(ไม่สูงนะ) และตามด้วยอีกรอบเป็นยกเท้าข้างที่ไม่ได้ติดกับบอร์ดขึ้น (ไม่ได้ยกนานนะ เหอๆ ไม่งั้นหัวทิ่มกันพอดี) เวลาไถ เท้าที่ใช้ดันตัวไปจะไปวางอยู่หลังบอร์ดนะ แต่กว่าจะไถได้คล่องก็เอาซะหัวทิ่มไปหลายรอบ

17 Mar 2008
เรียน snowboard วันที่สองเปลี่ยนไปเรียนอีกที่ที่มันชันขึ้นหน่อย ทำ frontside, backside ซึ่งจะดูที่ว่าหันหน้าเข้าหรือออกจากภูเขา... ถ้าหันหน้าออก(คือจะเห็นว่ามันชันแค่ไหนอะแหละ จะเป็น backside ง่ายกว่า frontside เยอะ เหอๆๆ แล้วก็ไม่มีอะไร แต่ว่าหัดบังคับไปซ้ายขวาแค่นั้น แต่ก็แอบไถครืดดด ครืดดด ลงมาตรงๆดื้อเหมือนกัน หุหุ แล้วถ้าจะให้มันช้าลงเนี่ยก้อต้องโยกตัวไปด้านที่มันไหลไปอยู่ ถ้ามันไหลไปซ้ายแต่ดันเอนตัวไปทางขวาเนี่ย พุ่งลงเลย มันจะเร็วขึ้นแทน

18 Mar 2008
ตอนเช้าไต่ไปถ่ายรูปจากยอดเขาที่ 3330m ยังไม่ใช่จุดที่สูงที่สุดของภูเขานะ เพราะว่าจากแผนที่เนี่ย จุดสูงสุด [Massif du Mont Blanc] มะมีสกีลิฟท์ไปง่า... และมันก็อยู่ไกลจากที่ที่เราพักซะเยอะเลย
ส่วนตอนบ่ายไหม้เรยกรู... เรียน snowboard วันที่สาม คราวนี้มีแล่นกลับจากหน้าไปหลัง หลังไปหน้าด้วย อันนี้หัดทางเกือบลาดง่ายกว่าเย้อออ เพราะเรายังไม่คล่องจะหักมุมกลับด้านเลยมันก็ใช่เรื่องอยู่

19 Mar 2008
เรียน snowboard วันที่สี่ ไถลงเป็นขั้นบันไดเลย ทำทีละข้างแต่ก็จาพุ่งลงเอาง่ายๆเหมือนกัน กับกลับด้านเหมือนมะวานแต่ระยะเปลี่ยนสั้นลง ก็ยังทำไม่ค่อยได้อยู่ดี ก็มีแค่นี้ที่เค้าสอน ถ้ามีเพิ่มคงมีแล้วล่ะ เพราะครึ่งหลังนี่ทำแต่กลับด้านเนี่ยล่ะ แต่แค่ไปสูงขึ้น ชันขึ้น... เหอๆๆ (แต่ยังหัวทิ่มเหมือนเดิม)

20 Mar 2008
วันนี้ก็แดดดี(ไปไหน) มะวานนี้เกรียมยังกะเหมือนว่าไปทะเลมากกว่าไป Ski Trip เลย เซ็งเราะเล่นไม่ได้ฮ่า.. วันนี้เหมือนว่า ล้ามาจากสาม สี่ วันแรกที่เล่นซะกะจุยและหัวทิ่มกลิ้งลงมาอยู่หลายรอบ เหอๆ

21 Mar 2008
ยังกะพายุหิมะแน่ะ ไถทีบอร์ดก็จมหิมะทีจนหงุดหงิด อยากจะมันส์ซะหน่อย อดเรย... กว่าจะได้ขึ้นรถกลับอังกฤษก็เกือบสี่ทุม เพราะหิมะตกตลอดเลย (มันตกทั้งวัน จนพื้นนิ่มไปหมด เดินโคดยากเลยด้วย ยกเท้าแทบไม่ขึ้น)



ที่สังเกตอยู่อย่างคือ ที่เราไปทริปกันนี่เป็นของบริษัท Wastelandski แล้วเห็นมหาลัยอื่นใส่เสื้อกันหนาวมีโลโก้ Wasteland กับชื่อมหาลัยด้วย คิดว่าเค้าคงไปรับจัดทริปตามมหาลัย ไปแบบนี้ดีอย่างที่ว่า ราคาถูกกว่าไปเองเยอะ แล้วก็พอจะมีเพื่อนกลับมาบ้าง หุหุ เฮ่อ...

Sunday, March 09, 2008

เยี่ยมเยียน NHM รอบสอง

ไปมารอบสองแล้ว ส่วนประเภท Interactive Exhibition เนี่ยคงไม่มานั่งรวมแล้วล่ะ เยอะเกิ้น...แล้วถ่ายรูปมาคงไม่เห็นภาพ มันต้องล่อเป็นวีดีโอกันเลย ถึงจะเห็นชัดๆ แต่ถือว่าเข้าใจสื่อดีเหมือนกัน ทำให้เล่นได้เลย เพื่อให้เข้าใจหลักการ ส่วนบางอันมันก็เป็นอะไรที่ทำแค่แบบให้ข้อมูลเฉยๆ แต่วิธีการให้ข้อมูลก็ต่างกันแหละ ทั้งทำเป็นเหมือนโรงหนังที่บอกว่าจะรันใหม่ทุกกี่นาทีก็ว่าไป ทำเป็นโทรศัพท์ (คิดว่าคงประหยัดไฟด้วย คือถ้าไม่มีใครมายกหูฟังรายละเอียดที่เค้าอธิบาย เครื่องเล่นเสียงก็ไม่ต้องทำงานตลอด) หรือแบบ touch screen ก็มีทั้งแบบให้ข้อมูลกับทำเป็นเหมือนเกมให้เล่นเลย อ่อ สื่อ interactive แบบไม่ใช้ไฟฟ้าก้อมีนะ อิอิ ส่วนของร่ายกายคนง่ะ ที่เค้าจำลองข้อต่อเป็นเหล็กมาให้ดู แล้วโยกเล่นได้ ว่ามันทำงานยังไง ส่วนโซนสีส้ม ใน map มันมีสองส่วน แต่ไปดูแล้วล่ะ มันหายไปส่วนนึง และก็ส่วนที่เปิดเป็นส่วนที่ต้องจองล่วงหน้าและสำหรับกรุ๊ปเท่านั้น(น่าจะนะ) แต่เอาเป็นว่าไปเก็บรูปมาให้ครบทุกโซนแล้วนะ

อันล่างนี่เอามาฝากเล่น ไดโนเสาร์คุยกัน... เอาภาษาอะไรดีล่ะ อิอิ


แล้วนี่ก็เป็น T-Rex มันกระดิกหางด้วย เหมือนหมาเลย :)

Sunday, March 02, 2008

จาก Re-know.com #1

จาก Re-know.com #1
Mar 2, 2008 5:01 PM

ชอบคนทำเว็บนี้มากๆ... คิดนอกกรอบ ล้มทฤษฎีเก่า ทำตรงข้ามกับที่คนอื่นทำ และหลายๆเรื่องที่เค้าคิด เหมือนที่เราคิด... ไปหาอ่านอัน original เอาเองนะ

1. ทำไมระบบการศึกษาไทยไม่พยายามสอนให้เข้าใจ และเปิดรับความเห็น (เราเชื่อว่าเด็ก อนุบาลก็มีความเห็นอะไรเจ๋งๆด้วยเหมือนกันนะ)
"กรูเรียนไม่เก่ง แต่ไม่ได้หมายความว่ากรูจะเรียนรู้อะไรใหม่ๆไม่ได้ หรือคิดอะไรไม่เป็นซักหน่อย"

2. เมื่อไหร่ที่บริษัทจะเลิกเลือกพนักงานจากการดูผลการเรียน (ในเมื่อเค้าสมัครมาเพราะเค้ารู้หรอกน่าว่าเค้าสามารถทำอะไรให้บริษัทได้ บ้าง และเค้าอยากจะทำ ซึ่งเราว่าเป็นไปได้ที่จะทำให้บริษัทพัฒนาได้มากกว่าจ้างแต่คนเก่งๆนะ)
"คนเรียนเก่ง ไม่ใช่ว่าจะเก่งงานเสมอไปนี่นา บอกได้เลยว่าพี่ที่ทำงานเก่าไม่ได้เรียนเก่งมากมาย แต่เค้าทำงานเก่งมากกกกก ชนิดที่ว่าเราเรียนมหาลัยดีๆมาแต่ต้องหามุมหลบ"

3. ชอบที่เค้าบอกว่า “คุณไม่มีทางคิดนอกกรอบได้ถ้าคุณไม่ลืมรอบความคิดเดิมซะก่อน” แต่ถามว่าผู้บริหารกี่คนที่กล้าพอที่จะทำแบบนี้?? (คุณกล้าที่จะวางอำนาจ กล้าที่จะตัดสินใจอนุมัติหรือไม่อนุมัติงาน แต่... ไม่กล้าที่จะทำอะไรแปลกๆ)
"ขอโทดอันนี้ไม่รู้ ให้กรูลองบริหารก่อนดิ แต่คิดนอกกรอบ กรูทำทีไรไม่มีใครยอมรับซะที?? +_+"

4. จากที่อ่านๆดู innovative ที่ง่ายที่สุดในการบริหารคือการทำตรงข้ามกับสิ่งที่บริษัทอื่นๆทำ หรือทำตรงข้ามกับสิ่งที่มันควรจะเป็น(อย่างที่เคยเป็น) แต่ผู้บริหารส่วนมาก (กลัวผิดพลาดเนี่ยสิ เลยทำได้แค่ "ตาม" หรือ "เท่าเทียม" กับคู่แข่ง และตลาดก็ออกมาเหมือนๆกัน ต้องไปแข่งกันด้านราคาซะเยอะ เลยเกิดหลักที่ว่าของถูกแล้วดีมันมีในโลกง่ะ --อันนี้คิดเอง อิอิ)
"อันนี้พยายามวิเคราะห์ที่อ่านๆของเค้าอะนะ"

เรียน จนจะหมดครอสแล้วก็ยังรู้สึกว่า ไอ่ Interactive Media ก็ยังไม่ใช่กรูอยู่ดี แต่เอาเป็นว่ามันอยู่ที่ว่าเราจะมองสิ่งรอบๆตัวเรายังไงมากกว่า... และบางอย่างที่เราไม่คิดว่ามันจะได้เอาไปใช้ มันอาจจะมีซักวันที่เราต้องใช้จริงๆ

"ทุกอย่างมีสิทธิ์เป็นไปได้
แต่ไม่ใช่ทุกอย่างที่มันจะเป็นไปตามที่เราคิด"
ชอบ ชอบ... หุหุ (แต่ทำไมกรูเจอแต่อันหลังฟะ -_-")